top of page

Venice, Italy (by night)

ช่วงเวลาเดินทาง กลางเดือนกรกฏาคม 2019 ระยะเวลา 5 วัน

Il Redentore, Venice, Italy

บทความนี้เป็นบทตวามต่อจาก Venice, Italy (อ่าน https://www.gooutseeworld.com/post/venice) เหตุเพราะอยากจะแยกภาพส่วนต่างๆที่เห็นช่วงกลางคืนออกจากกลางวัน เวนิซในยามเย็นสวยมาก และสงบกว่ากลางวันลงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่มากับเรือสำราญและคณะทัวร์ในกลางวันกลับออกจากเกาะ

Venice, Italy

เวนิซเป็นเมืองที่งามสง่าและยังคงความสมบูรณ์แบบมากแม้จะผ่านมาเกือบ 1,000ปี อาคารส่วนใหญ่ที่เราเห็นมีอายุ 5-600ปี และเนื่องจากเวนิซเป็นเมืองที่ชาวอิตาลีต้องการอนุรักษ์ ในเวนิซจึงไม่มีสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ผสมอยู่ ทำให้เมืองสวยคลาสสิก


St. Mark’s Square/Piazza San Marco

St Mark's Square, Venice, Italy

Piazza San Marco หรือ St. Mark’s Square ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเวนิซในยามค่ำคืน จะมีดนตรีสดจากร้านที่อยู่รอบๆจตุรัสแสดงทุกคิน ในยามค่ำคืนผู้คนจะมานั่งฟังเพลงโดยมี Doge's Palace และ St Mark’s Basilica เป็นฉากหลัง


The Campanile/ Campanile di San Marco

Campanile di San Marco, Venice, Italy

หอคอยนี้เดิมถูกสร้างเพื่อเป็นประภาคารและป้อมเฝ้าระวัง ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 และบูรณะเรื่อยมาในศตวรรษที่ 12 14 และ 16 หอคอยนี้มีความสูงถึง 99 เมตร หอคอยนี้เป็นต้นแบบของป้อมประภาคารให้ป้อมใน Republic of Venice ซึ่งเป็นรัฐอิสระในอดีตซึ่งปัจจุปันเรายังเห็นได้ที่เมือง Piran ในประเทศสโลวีเนีย และ Rovinj ในประเทศโครเอเชีย


Santa Maria Della Salute

ภาพเวนิซที่เราเห็นกันตามโปสการ์ดมักจะมีโบสถ์แห่งนี้อยู่ด้วยเสมอ เป็นโบสถ์โรมันแคทอลิกที่สร้างขึ้นหลังจากโรคระบาดฝีดาษครั้งใหญ่ Great Plague of Milan ที่คร่าชีวิตประชากรไปกว่า 1ใน3 หรือราว 1แสนคนในเวนิซเลยทีเดียว โบสถ์นี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1680 ใช้เวลาก่อสร้างและประกวดแบบยาวนานเกือบ 50ปี


Bridge of Sighs

Bridge of Sighs, Venice, Italy

Bridge of Sighs เป็นส่วนต่อของ Doge's Palace ซึ่งเป็นที่ว่าการของขุนนางผู้นำเวนิซซึ่งถูกเลือกโดยสภาเมืองเวนิซในยุคที่เวนิซยังเป็นรัฐอิสระในช่วงกว่า 1000ปี (อ่านบทความเต็มต่อ https://www.gooutseeworld.com/post/venice) ว่ากันว่าในสมัยโบราณนักโทษจะเห็นสะพานนี้เป็นภาพสุดท้ายก่อนถูกนำไปขังลืมในคุกใต้ดิน สำหรับคนที่ต้องการถ่ายรูป Bridge of Sighs ตอนพลบค่ำจะเป็นเวลาที่สวยที่สุด เพราะมีการจัดไฟพิเศษส่องลงบนตึก


Rialto Bridge/Ponte di Rialto

Rialto Bridge, Venice, Italy

Rialto Bridge สะพานรีอัลโต เป็นหนึ่งในสะพานข้าม Grand Canal ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปมากที่สุด สะพานนี้มีความเก่าแก่ที่สุดในเวนิซ สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยไม้ในปี ค.ศ.1181 ต่อมาได้มีการรื้อ และสร้างใหม่ด้วยหินอย่างที่เห็นในปัจจุบัน บริเวณตีนสะพานทั้งสองฝั่งยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่และบาร์ ซึ่งคึกคืนมากในช่วงกลางคืน


Grand Canal

Grand Canal แกรนด์คาแนลเป็นคลองที่ผ่ากลางเมืองเวนิซเป็นรูปตัว S หากมองจากท้องฟ้า จุดเริ่มตรงสถานีรถไฟ Santa Lucia ซึ่งเป็นสถานีรถไฟเดียวบนเกาะ และไปสิ้นสุดที่ปากอ่าวลงทะเลสาบ ระยะทาง 3.8 กิโลเมตร กว้าง 30-90 เมตร และมีความลึกเฉลี่ย 30 เมตร

ใน Grand Canal เราจะเห็นตึกสไตล์ Fondaco ซึ่งสร้างในช่วงศตวรรษที่ 12 ค่อนข้างเยอะ ซึ่งตึกเหล่านี้เดิมเอาไว้ให้พ่อค้าต่างถิ่นที่เข้ามาทำการค้าขายในเวนิซพัก ด้านล่างจะค่อนข้างสูงเพื่อเป็นที่เก็บสินค้าและร้านค้า ด้านบนเป็นที่พัก อารมณ์เหมือนตึกแถวในบ้านเรา ทั้งนี้เพื่อไว้ควบคุมการเคลื่อนไหวของชาวต่างถิ่นจึงให้อาศัยอยู่ในแถว Grand Canal

Canal, Venice, Italy

ในเวนิซไม่มีรถหรือจักรยานใดๆ การเดินทางทำโดยเรือที่ล่องตามคูคลองเท่านั้น จากสถานีรถไฟมี Vaporetto ซึ่งเป็นเรือเมล์คล้ายเรือด่วนเจ้าพระยาบ้านเราแต่ลำสั้นกว่า ที่แบ่งเป็นสาย A และ B โดยสายหนึ่งจะหยุดทุกป้าย และอีกสายหยุดเฉพาะป้ายใหญ่ นอกจากนั้นยังมีเรือนำเที่ยวที่วิ่งอ้อมไปออกนอก Grand Canal เพื่อประหยัดเวลา ไปเกาะต่างๆรอบเวนิซ หรือสามารถนั่งเรือเมล์ไปลงที่สุดสายตรงจตุรัส St. Mark's Square แล้วเปลี่ยนเรือเมล์ใหญ่ไปต่อเกาะต่างๆ

ถ้าอยากล่องตามคูคลองเล็กๆ ก็จ้างเรือ Water Taxi ที่เป็นเรือยนต์ หรือเรือแจว Gondola กอนโดล่า ให้ล่องชมวิวในคลอง ซึ่งเป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะช่วงเย็นที่แดดร่มลมโกรก ต้องจองคิวกันไว้ก่อน แม้จะมีท่าขึ้นหลายที่ แต่จุดตรงจัตุรัสเซนต์มาร์คจะยอดนิยมที่สุด ค่าเรืออยู่ราว 80ยูโร/40นาที นั่งได้สูงสุด 6คน สามารถจอง online ได้ด้วย เส้นทางจะวิ่งรอบคลองเล็กที่รอดออกจาก Grand Canal จากตรง St Mark’s Square จัตุรัสเซนต์มาร์คไป Rialto Bridge สะพานริลอาโต้ ระหว่างทางกอนโดเลียก็จะอธิบายประวัติอาคารสำคัญต่างๆ (อ่านบทความเต็มต่อ https://www.gooutseeworld.com/post/venice)


Giudecca

เกาะที่อยู่ตรงข้ามกับจตุรัสเซนต์มาร์ค ซึ่งเราจะเห็นเป็นพื้นหลังเสมอบนโปสการ์ดของเวนิซ Giudecca เคยเป็นที่ตั้งของพระราชวังขนาดใหญ่ที่มีสวนล้อมรอบ ภายหลังในต้นศตวรรษที่ 20 ได้กลายเป็นโซนอุตสาหกรรมต่อเรือ โรงสร้างหนัง โรงสี และโกดังจนถึงช่วงสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 กลายมาเป็นแหล่งที่พักอาศัยของชาวเมืองที่มีอันจะกิน และโรงแรมหรู Belmond Cipriani Hotel ที่มีสวนขนาดใหญ่และสระว่ายขนาดโอลิมปิกที่เป็นน้ำเกลือ

Il Redentore, Venice, Italy

Il Redentore เป็นโบสถ์โรมันแคทอลิกบนเกาะ Giudecca สร้างในปี 1592 หลังจากการระบาดฝีดาษครั้งใหญ่ในปี 1575-76 ซึ่งคร่าวชีวิตชาวเวนิซไปกว่า 46,000คน เพื่ออุทิศแก่พระเจ้า ด้านหน้าถูกออกแบบโดยมี Pantheon ที่โรมเป็นต้นแบบ ถือเป็นโบสถ์ที่มีความสง่างามมาก และด้านหลังของโบสถ์นี้มีหอคอย Campanile ที่เหมือนกับหอคอยตรงจัตุรัสเซนต์มาร์คอีกด้วย จึงถือเป็นหมู่ตึกที่มีความเป็นเวนิซที่สมบูรณ์แบบ


 

การเตรียมตัว

ไม่มีอะไรมากในการเตรียมตัว นอกจากสวมรองเท้าที่เดินสบาย การเดินเล่นยามเย็นในเวนิซ เหมาะกับช่วงฤดูร้อนที่สุด เนื่องจากพระอาทิตย์จะตกดินช้า และอากาศพอดี ไม่หนาวหรือชื้นเกินไป และคนก็ไม่น้อยเกินไปจนรู้สึกเปลี่ยว ไม่แนะนำซอยเล็ก ให้เน้นการเดินในถนนที่ใหญ่และตามลานต่างๆมากกว่า ตามทางจะมีร้านที่ยังเปิดอยู่เป็นช่วงๆเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว

112 views

Comments


bottom of page